จองเที่ยวบินไปเจนไนกับการบินไทย เริ่มต้นที่ THB11,885

ภาพรวม

เจนไน (Chennai) เมืองใหญ่อันดับสี่ของอินเดีย (India) ที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงจากประตูสู่อินเดียใต้กลายเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวอย่างแท้จริง วัดฮินดูที่มีชื่อเสียงทางประวัติศาสตร์หลายแห่ง สิ่งปลูกสร้างจากยุคอาณานิคม วัฒนธรรมทมิฬอันรุ่งเรือง ศิลปะการแสดงอันเฟื่องฟูผสมผสานกับโรงแรมทันสมัยที่เติบโตขึ้นและร้านอาหารหลายแห่ง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นเมืองที่ยอดนิยม

การเดินทาง

เครือข่ายรถไฟรอบเมือง  รถโดยสารและระบบรถไฟใต้ดินที่ขยายตัวจากเดิม ช่วยให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วเมือง รถสามล้อเครื่องและรถแท็กซี่ต่างก็เป็นทางเลือกสำหรับการเดินทาง ควรตกลงราคาก่อนขึ้นรถทั้งสองประเภทนี้ การจราจรและการขับขี่ที่ไว้ใจไม่ได้ การขับรถเองในเจนไนจึงใช้ต้องพยายามไม่น้อย เพื่อป้องกันความเครียด จ้างคนขับรถแทนจะดีกว่า

สถานที่น่าเที่ยวและทำกิจกรรม   

เจนไนสร้างขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1639 โดยบริษัท British East India บนพื้นที่หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ ท่ามกลางอนุสรณ์สถานอดีตแรกเริ่มที่เคยเป็นค่ายทหารของอังกฤษ ซึ่งก็คือ บริเวณประวัติศาสตร์ของเมืองจอร์จทาวน์ (George Town) และป้อมเซนต์จอร์จ (Fort St. George) อันยิ่งใหญ่ ปัจจุบันป้อมดังกล่าวมีพิพิธภัณฑ์น่าสนใจที่จัดเก็บเอกสารเกี่ยวกับต้นกำเนิดเมืองและจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ งานศิลปะและเครื่องเงินสมัยอาณานิคม

ตามควันธูปตลบอบอวลไปยังเทวาลัยกปาลีศวร (Kapaleeshwara Temple) วัดสมัยศตวรรษที่ 16 ในย่านไมลาพอร์ (Mylapore) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบริเวณนี้ วัดทราวิทะที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งนี้ประดับประดาไปด้วยรูปปั้นและเทพเจ้าในตำนานสีสันตระการตา

เที่ยวหาดมารีน่า (Marina Beach) ยามอาทิตย์อัสดง ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด หนึ่งในชายหาดในเมืองที่ยาวที่สุดในโลก แม้จะไม่เหมาะแก่การว่ายน้ำ แต่ที่นี่ก็เป็นจุดสำคัญสำหรับการพบปะสังสรรค์เป็นหมู่คณะหรือทั้งครอบครัวรวมตัวกันปิกนิกหรือเดินทอดน่องย้ำไปบนผืนน้ำ ด้านพิพิธภัณฑ์รัฐบาล (Government Museum) และหอศิลป์แห่งชาติ (National Art Gallery) ที่โดดเด่นในแง่วัฒนธรรมและความกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อาคารยุคอาณานิคมสมัยศตวรรษที่ 18 ก็เป็นที่ควรค่าน่าไปชม 

เมืองเจนไนยังเป็นจุดเริ่มต้นยอดเยี่ยมในการท่องอินเดียใต้ ห่างออกไปนอกเมืองเพียงไม่กี่ชั่วโมงเป็นที่ตั้งของเมืองกาญจีปุรัม (Kanchipuram) ศูนย์กลางฮินดูศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเรื่องวัดต่างๆ ขณะที่เมืองพูดูเชอร์รี (Pondicherry) เมืองทันสมัยที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศสก็อยู่ห่างออกไปเพียง 3 ชั่วโมง

อัญมณีที่รอการค้นหา

หนึ่งในมนต์เสน่ห์อันยิ่งใหญ่ที่สุดของเจนไน ซึ่งก็คือเมื่อคุณเหน็ดเหนื่อยจากเมือง พื้นที่โล่งกว้างและธรรมชาติก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม ขึ้นไปทางเหนือสู่ทะเลสาบ Pulicat ทะเลสาบน้ำเค็มที่ใหญ่เป็นอันดับสองของอินเดีย ทะเลสาบแห่งนี้จะน่าทึ่งที่สุดระหว่างเดือนตุลาคมถึงมีนาคม ยามที่มีนกหลายพันตัวอพยพมาที่นี่และก็ไม่น่าเชื่อว่าหนึ่งในนั้นก็คือ ฝูงนกฟลามิงโกสีชมพูสะดุดตาที่มาเยือนทะเลสาบแห่งนี้

 อีกหนึ่งสถานที่น่าสนใจที่รู้จักกันไม่มากนักก็คือ Arignar Anna Zoological Park ซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 510 เฮกเตอร์ เป็นหนึ่งในสวนสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของอินเดีย แหล่งสัตว์แปลกหายากทุกประเภทที่มีตั้งแต่เสือไปจนถึงยีราฟที่เดินเตร่อยู่ในกรงที่นี่

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารชั้นเลิศของเจนไนเป็นเหตุผลมากพอที่เชิญชวนให้คุณมาที่นี่ อาหารส่วนใหญ่ไม่มีเนื้อสัตว์แถมมักมีรสชาติเผ็ดร้อน มีการใช้พริกอย่างกว้างขวาง มังสวิรัติคนใดที่คุ้นเคยกับชีวิตที่ทานแต่อาหารชั้นรอง การมาถึงเจนไนจะเหมือนกับการมาเหยียบ ณ ดินแดนแห่งความสุข แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะหาเนื้อหรืออาหารทะเลไม่ได้ที่นี่ อาหารท้องถิ่นที่คุณต้องลองยังมีโดซา dosas (เครปข้าวยัดไส้ปรุงรส) อาหารคล้ายแพนเค้กอย่างอุตตะปัม uttapams (ซึ่งจะมีผักและเครื่องเทศผสมลงไปในแป้ง) และซัมบาร์ sambar (ซุปถั่วเลนทิล) ซึ่งมักใช้จิ้มทานคู่กับอิดลี idlis (เค้กข้าว) ร้านอาหารมังสวิรัติที่มีสาขาของโรงแรม Hotel Saravana Bhavan เหมาะเป็นที่เริ่มต้นสำหรับนักเดินทางผู้หิวโหย มื้ออาหารต่างๆ มักจะตบท้ายด้วย kapi (กาแฟ) กาแฟอาราบิก้าผสมกับชีคอริใส่นมและน้ำตาล